เกี่ยวกับเรา

 

บริษัท แอร์ ฮอร์ส คอมเพรสเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องอัดอากาศ ปั๊มลม ทั้งแบบลูกสูบแรงดันสูง ปั๊มลมแบบสกรู ปั๊มลมแบบสกรูอินเวอร์ทเตอร์ ปั๊มลมสกรูเคลื่อนที่ รับออกแบบ ติดตั้ง บริการหลังการขาย มีทีมงานมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษา เข้าให้บริการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระบบลมได้อย่างรวดเร็ว ตอบปัญหาลูกค้าตรงจุด ไม่ดึงงาน จำหน่ายอะไหล่ในราคาทุน แนะนำการเปลี่ยนพาร์ท ไม่ชาร์จค่าบริการหลังการขาย ช่วยลดต้นทุนให้ลูกค้า เพราะเราคำนึงถึงเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ที่มีอัตราแข่งขันสูง ความรวดเร็วในการเข้าถึงลูกค้า ราคาเครื่องใหม่ที่เหมาะสม และประสบการณ์ใน สายงานที่เราทำมา ทำให้ทราบถึงความต้องการจริงของลูกค้า

 

    

    

    

 



ปั๊มลมลูกสูบ (Piston Air Compressor) ทำงานโดยอาศัยการเคลื่อนที่ของลูกสูบภายในกระบอกสูบ ซึ่งได้รับการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อมอเตอร์ทำงาน ลูกสูบจะเคลื่อนที่ขึ้นและลงในแนวดิ่ง ทำให้เกิดกระบวนการดูดและอัดอากาศภายในกระบอกสูบ กระบวนการทำงานของปั๊มลมชนิดนี้สามารถแบ่งได้ดังนี้:

กระบวนการดูดอากาศ: เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ลง ลิ้นทางดูดอากาศจะเปิดออกเพื่อให้สามารถดูดอากาศเข้าสู่กระบอกสูบ ในขณะเดียวกันลิ้นทางออกจะปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศรั่วออกไป

กระบวนการอัดอากาศ: เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น ลิ้นทางดูดอากาศจะปิดลง และลิ้นทางออกจะเปิดออก ทำให้อากาศที่ถูกอัดอยู่ในกระบอกสูบถูกดันออกไปยังทางออกของปั๊ม

กระบวนการนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ในการทำงานของปั๊มลม ซึ่งจะสร้างแรงดันอากาศตามต้องการ โดยการสร้างแรงดันจะขึ้นอยู่กับจำนวนรอบการทำงานของลูกสูบและโครงสร้างของปั๊ม

การสร้างแรงดันของปั๊มลมชนิดลูกสูบ (Piston Air Compressor) ขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นตอน (Stage) ในการทำงานของปั๊ม ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความสามารถในการสร้างแรงดันอากาศ ตัวอย่างเช่น:

Single Stage: เป็นระบบที่ลูกสูบทำการดูดและอัดอากาศในขั้นตอนเดียว ปั๊มลมแบบนี้สามารถสร้างแรงดันได้ประมาณ 8-10 บาร์ เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่ไม่ต้องการแรงดันสูงมาก

Two Stage: เป็นระบบที่มีการอัดอากาศในสองขั้นตอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างแรงดัน โดยสามารถสร้างแรงดันได้สูงขึ้นถึง 12-15 บาร์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงดันอากาศสูง เช่น งานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ปั๊มลมลูกสูบยังมีความยืดหยุ่นในการสร้างแรงดัน โดยสามารถสร้างแรงดันได้ตั้งแต่ระดับต่ำ (ประมาณ 1 บาร์) ไปจนถึงระดับแรงดันปานกลางและสูง จึงทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานหลากหลายประเภท

ปั๊มลมแบบลูกสูบ มีให้เลือกทั้งแบบที่ใช้สายพานและแบบโรตารี:

ปั๊มลมแบบใช้สายพาน: มักถูกใช้ในงานที่ต้องการความทนทานสูง และมักมีการบำรุงรักษาง่าย

ปั๊มลมแบบโรตารี: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการขนาดเล็กและความเงียบในการทำงาน แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการสร้างแรงดัน

 

ปั๊มลมลูกสูบแบบใช้สายพานมีลักษณะพิเศษที่หัวปั๊มแยกออกจากมอเตอร์ โดยมีการใช้สายพานเพื่อเชื่อมการทำงานระหว่างมอเตอร์กับหัวปั๊ม การออกแบบเช่นนี้ช่วยให้ปั๊มมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ทั้งระบบ Single Stage และ Two Stage สำหรับสร้างแรงดันสูงสุดได้ถึง 15 บาร์ คุณสมบัติของปั๊มลมลูกสูบแบบใช้สายพาน: 

ระบบ Single Stage: ทำแรงดันได้ประมาณ 8-10 บาร์ มีให้เลือกทั้งรุ่นที่ใช้น้ำมันหล่อลื่นและแบบไม่ใช้น้ำมัน     
ระบบ Two Stage: ทำแรงดันได้สูงขึ้นถึง 12-15 บาร์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงดันสูง เช่น งานอุตสาหกรรม     
ปั๊มลมชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงและทนทาน สามารถใช้กับงานที่ต้องการการทำงานอย่างต่อเนื่องและหนักได้     ขนาดของปั๊มลมแบบใช้สายพานมักจะใหญ่กว่าปั๊มลมแบบโรตารี่ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความจุลมสูง  
 
ตัวอย่างปั๊มลม SWAN:
 
รุ่นที่ลงท้ายด้วย U (Unloader Valve): รุ่นนี้มีระบบ Unloader Valve ที่ช่วยควบคุมแรงดันและลดภาระของมอเตอร์ เมื่อแรงดันถึงระดับที่กำหนด Unloader Valve จะปิดลมเข้าถังและเปิดลิ้นวาล์วเพื่อให้มอเตอร์ทำงานเบาลง ช่วยในการระบายความร้อนและทำให้ปั๊มเหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน     
 
รุ่นที่ลงท้ายด้วย P (Pressure Switch): มีการใช้ Pressure Switch เพื่อควบคุมแรงดันอัตโนมัติ เมื่อแรงดันในถังถึงระดับที่กำหนดไว้ มอเตอร์จะตัดการทำงานทันที และจะกลับมาทำงานใหม่เมื่อแรงดันลดต่ำกว่าค่าที่กำหนด ทำให้รุ่นนี้ประหยัดพลังงานและเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ปั๊มลม SWAN มีขนาดความจุถังตั้งแต่ 36 ลิตรไปจนถึง 400 ลิตร และเป็นที่นิยมใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการลมแรงดันสูงและการทำงานต่อเนื่อง

ลักษณะของปั๊มลมลูกสูบแบบใช้สายพาน:

Single Stage: สร้างแรงดันได้ประมาณ 8-10 บาร์ มีทั้งรุ่นที่ใช้น้ำมันหล่อลื่นและแบบไม่ใช้น้ำมัน รุ่นที่ใช้น้ำมันหล่อลื่นมักจะมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่า จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการใช้งานหนัก 
Two Stage: มีการอัดอากาศสองขั้นตอนเพื่อเพิ่มแรงดัน ทำให้สามารถสร้างแรงดันได้สูงสุดถึง 12-15 บาร์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงดันสูงในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
 
รุ่นที่ลงท้ายด้วย "U" (Unloader Valve)
- ปั๊มลมรุ่นนี้ใช้ Unloader Valve เพื่อควบคุมการทำงาน โดยเมื่อแรงดันในถังถึงระดับที่กำหนดไว้ ตัว Unloader Valve จะสั่งให้ปิดการรับอากาศเข้าถัง และจะเปิดลิ้นวาล์วเพื่อให้มอเตอร์ทำงานเบาลง    
- จุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถระบายความร้อนได้ดีและมอเตอร์ไม่ต้องหยุดทำงาน แต่จะทำงานแบบเบาลง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการให้ปั๊มทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวันหรือในสภาพงานที่ต้องการความสม่ำเสมอ
 
รุ่นที่ลงท้ายด้วย "P" (Pressure Switch)
 - รุ่นนี้มีการใช้ Pressure Switch หรือสวิตช์ควบคุมแรงดันเพื่อควบคุมการทำงานของปั๊มลม เมื่อแรงดันในถังถึงระดับที่กำหนด มอเตอร์จะหยุดทำงานทันทีเพื่อประหยัดพลังงานและจะเริ่มทำงานใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแรงดันภายในถังลดลงต่ำกว่าค่าที่กำหนด     
- รุ่นนี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการควบคุมแรงดันอัตโนมัติ โดยจะเปิดและปิดการทำงานของปั๊มตามความต้องการใช้งาน      
- รุ่น U เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต่อเนื่องและต้องการระบายความร้อนได้ดี โดยไม่ต้องหยุดมอเตอร์     
- รุ่น P เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ต้องการควบคุมแรงดันอัตโนมัติและประหยัดพลังงาน  

ปั๊มลมลูกสูบแบบโรตารี่ (Rotary Piston Air Compressor) เป็นปั๊มลมที่มีลักษณะการทำงานที่ไม่ใช้น้ำมันหล่อลื่น โดยมีระบบการทำงานแบบ Single Stage ซึ่งสามารถสร้างแรงดันได้ในช่วง 8 - 10 บาร์ หัวปั๊มจะติดตั้งอยู่กับตัวมอเตอร์โดยตรง ทำให้ปั๊มลมชนิดนี้มีขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัด น้ำหนักเบา และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

ข้อดีของปั๊มลมลูกสูบแบบโรตารี่     
- ขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเคลื่อนย้ายบ่อย     
- ไม่ใช้น้ำมันหล่อลื่น ทำให้สะอาดและไม่ต้องบำรุงรักษาในเรื่องของการเปลี่ยนน้ำมัน     
- สามารถผลิตลมได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับปั๊มลมแบบใช้สายพาน     
- ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับปั๊มลมแบบใช้สายพาน จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มงานที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ไม่ต้องการค่าใช้จ่ายสูง
 
ข้อเสีย: 
มีเสียงดังมากในขณะที่ทำงาน เนื่องจากมอเตอร์และลูกสูบทำงานโดยไม่มีระบบการลดเสียงที่ซับซ้อน     
อายุการใช้งานสั้นกว่าปั๊มลมแบบใช้สายพาน เนื่องจากมักจะร้อนเร็วกว่าและมีการเสื่อมสภาพเร็วกว่า     
ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจเกิดความร้อนได้ง่าย  
 
ปั๊มลม PUMA เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ปั๊มลม PUMA มีความหลากหลายในขนาดและประเภท โดยมีให้เลือกทั้งแบบสายพานและแบบโรตารี่ ตัวปั๊มทำจากวัสดุเหล็กหล่อที่มีความแข็งแรงและทนทาน ขนาดเล็กไม่เปลืองพื้นที่ ระบายความร้อนได้ดี และมีความคล่องตัวสูง ปั๊มลม PUMA เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่การใช้งานในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมไปจนถึงการใช้งานทั่วไป
 
ข้อดีของปั๊มลมชนิดลูกสูบ: 
หลากหลายตัวเลือก: มีให้เลือกทั้งแบบใช้สายพานและแบบโรตารี่ ทำให้สามารถเลือกใช้งานตามความต้องการ ขนาดและกำลังหลากหลาย: มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 1/2 แรงม้าไปจนถึง 15 แรงม้า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการกำลังการผลิตลมที่แตกต่างกัน 
 
หลากหลายตัวเลือก: มีให้เลือกทั้งแบบใช้สายพานและแบบโรตารี่ ทำให้สามารถเลือกใช้งานตามความต้องการ      
 
ขนาดและกำลังหลากหลาย: มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 1/2 แรงม้าไปจนถึง 15 แรงม้า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการกำลังการผลิตลมที่แตกต่างกัน     ความทนทาน: ปั๊มลมชนิดลูกสูบมีความทนทานสูง สามารถใช้งานในงานหนักได้ดี      
 
การผลิตลมรวดเร็ว: โดยเฉพาะในรุ่นโรตารี่ ซึ่งสามารถผลิตลมได้เร็วขึ้น ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการการผลิตลมอย่างต่อเนื่อง      
 
ค่าซ่อมบำรุงไม่สูง: เนื่องจากการออกแบบที่เรียบง่ายและทนทาน ทำให้การซ่อมบำรุงไม่ต้องใช้งบประมาณสูง      
 
เหมาะกับงานหลากหลาย: ใช้งานได้ดีในอู่ซ่อมรถ งานเฟอร์นิเจอร์ งานพ่นสี และอื่น ๆ ที่ต้องการการใช้งานลมอัด 

ข้อเสียของปั๊มลมชนิดลูกสูบ:

- อาจมีน้ำมันปนในลม: ลมที่ได้อาจมีน้ำมันหล่อลื่นปะปนออกมา โดยเฉพาะในรุ่นที่ใช้น้ำมัน ซึ่งอาจทำให้ต้องใช้ตัวกรองน้ำมันเพิ่มเติม
- ความร้อนสูงและสึกหรอ: ปั๊มลมลูกสูบที่ไม่ใช้น้ำมันอาจเกิดความร้อนสูงได้ง่ายและสึกหรอเร็วกว่าแบบที่ใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลง
- เสียงดัง: ปั๊มลมลูกสูบแบบโรตารี่มีเสียงค่อนข้างดังในระหว่างการทำงาน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเงียบ
 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คุณ สยามรัศมิ์

Tel: 095-669-5654

Tel: 095-669-5456
 
 
 


ปั๊มลมลูกสูบ 1/2 แรงม้า ถัง 80 ลิตร รุ่น SB-2/80 รุ่น SB-2/80 มอเตอร์ 1/2 แรงม้า 
- กำลังไฟ 0.4 กิโลวัตต์ ถังพักลมขนาด 80 ลิตร ความกว้างของกระบอกสูบ 51 มิลลิเมตร 
- ระยะชักของกระบอกสูบ 42 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 620 รอบต่อนาที 
- ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 106 ลิตร/นาที หรือ 3.74 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
- ปริมาณลมที่ทำได้จริง 59.40 ลิตร/นาที หรือ 2.10 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
- ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
- ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
- ปั๊มลมกว้าง 42 เซนติเมตร ยาว 110 เซนติเมตร สูง 69 เซนติเมตร ไฟ 380V,220 
- ราคา 14,000 บาท

 
ปั๊มลมลูกสูบ 1/2 แรงม้า ถัง 80 ลิตร รุ่น SB-2/80   มอเตอร์ 1/2 แรงม้า 
กำลังไฟ 0.4 กิโลวัตต์ ถังพักลมขนาด 80 ลิตร ความกว้างของกระบอกสูบ 51 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 42 มิลลิเมตร   จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 620 รอบต่อนาที   
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 106 ลิตร/นาที หรือ 3.74 ลูกบาศก์ฟุต/นาที   
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 59.40 ลิตร/นาที หรือ 2.10 ลูกบาศก์ฟุต/นาที   
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว   
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว   
ปั๊มลมกว้าง 42 เซนติเมตร ยาว 110 เซนติเมตร สูง 69 เซนติเมตร   
ไฟ 380V,220   ราคา 14,000 บ

ปั๊มลมลูกสูบ 1 แรงม้า ถัง 90 ลิตร รุ่น SB-10/90 มอเตอร์ 1 แรงม้า 
กำลังไฟ 0.75 กิโลวัตต์  ความกว้างของกระบอกสูบ 65 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 44 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 635 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 185 ลิตร/นาที หรือ 6.53 ลูกบาศก์ฟุต/นาที  
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 116.50 ลิตร/นาที หรือ 4.11 ลูกบาศก์ฟุต/นาที  
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว  
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว  
ปั๊มลมกว้าง 35 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร สูง 70 เซนติเมตร 
ปั๊มลมลูกสูบใช้ไฟ 380V ราคา 20,500 บาท 
ปั๊มลมลูกสูบใช้ไฟ 220 V ราคา 21,800 บาท
 

 
ปั๊มลมลูกสูบ 1 แรงม้า ถัง 117 ลิตรรุ่น SB-10/117 มอเตอร์ 1 แรงม้า 
กำลังไฟ 0.75 กิโลวัตต์ ถังพักลมขนาด 117 ลิตร ความกว้างของกระบอกสูบ 65 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 44 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 635 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 185 ลิตร/นาที หรือ 6.53 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 116.50 ลิตร/นาที หรือ 4.11 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว  
ปั๊มลมกว้าง 45 เซนติเมตร ยาว 110 เซนติเมตร สูง 74 เซนติเมตร 
ไฟ 220V ราคา 23,000 บาท 
ไฟ 380 V ราคา 21,800 บาท

 
ปั๊มลมลูกสูบ 2 แรงม้า 90 ลิตร รุ่น SC-20/90 มอเตอร์ 2 แรงม้า 
กำลังไฟ 1.5 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 65 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 48 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 3 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 635 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 303 ลิตร/นาที หรือ 10.70 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 190.90 ลิตร/นาที หรือ 6.74 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว   
ถังพักลมขนาด 90 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 35 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร สูง 73 เซนติเมตร  
ไฟ 220V ราคา 32,800 บาท  
ไฟ 380 V ราคา 31,000 บาท 

 
ปั๊มลมลูกสูบ 2 แรงม้า 117 ลิตร รุ่น SC-20/117 มอเตอร์ 2 แรงม้า 
กำลังไฟ 1.5 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 65 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 48 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 3 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 635 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 303 ลิตร/นาที หรือ 10.70 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 190.90 ลิตร/นาที หรือ 6.74 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 117 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 51 เซนติเมตร ยาว 110 เซนติเมตร สูง 87 เซนติเมตร  
ไฟ 220V = 34,500 บ 
ไฟ 380 V = 32,500 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 2 แรงม้า ถัง 148 ลิตร มอเตอร์ 2 แรงม้า 
กำลังไฟ 1.5 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 65 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 48 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 3 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 635 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 303 ลิตร/นาที หรือ 10.70 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ ทำได้จริง 190.90 ลิตร/นาที หรือ 6.74 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 148 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 51 เซนติเมตร ยาว 134 เซนติเมตร สูง 87 เซนติเมตร  
ไฟ 200V = 36,800 บ 
ไฟ 380 V = 35,200 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 3 แรงม้า ถัง 148 ลิตร รุ่น SB-30/148 มอเตอร์ 3 แรงม้า 
กำลังไฟ 2.2 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 60 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 770 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 462 ลิตร/นาที หรือ 16.31 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 291 ลิตร/นาที หรือ 10.28 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 148 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 51 เซนติเมตร ยาว 134 เซนติเมตร สูง 100 เซนติเมตร  
ไฟ 200V = 48,500 บ 
ไฟ 380 V = 46,800 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 3 แรงม้า ถัง 260 ลิตร รุ่น SB-30/260 มอเตอร์ 3 แรงม้า 
กำลังไฟ 2.2 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 60 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 770 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 462 ลิตร/นาที หรือ 16.31 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 291 ลิตร/นาที หรือ 10.28 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 260 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 63 เซนติเมตร ยาว 153 เซนติเมตร สูง 117 เซนติเมตร  
ไฟ 200V = 52,800 บ 
ไฟ 380 V = 50,500 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 5 แรงม้า ถัง 148 ลิตร  รุ่น SC-50/148 มอเตอร์ 5 แรงม้า 
กำลังไฟ 3.7 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 60 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 3 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 850 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 767 ลิตร/นาที หรือ 27.08 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 483.20 ลิตร/นาที หรือ 17.06 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 148 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 51 เซนติเมตร ยาว 134 เซนติเมตร สูง 110 เซนติเมตร  
ไฟ 200V = 62,800 บ 
ไฟ 380 V = 61,000 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 5 แรงม้า ถัง 260 ลิตร รุ่น SC-50/260 มอเตอร์ 5 แรงม้า 
กำลังไฟ 3.7 กิโลวัตต์ ถังพักลมขนาด 260 ลิตร ความกว้างของกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 60 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 3 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 850 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 767 ลิตร/นาที หรือ 27.08 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 483.20 ลิตร/นาที หรือ 17.06 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 260 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 63 เซนติเมตร ยาว 153 เซนติเมตร สูง 117 เซนติเมตร 
ไฟ 200V = 65,800 บ 
ไฟ 380 V = 63,800 บ 

 
ปั๊มลมลูกสูบ 5 แรงม้า ถัง 304 ลิตร  รุ่น SC-50/304 มอเตอร์ 5 แรงม้า 
กำลังไฟ 3.7 กิโลวัตต์ ถังพักลมขนาด 304 ลิตร ความกว้างของกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 60 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 3 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 850 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 767 ลิตร/นาที หรือ 27.08 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 483.20 ลิตร/นาที หรือ 17.06 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 304 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 63 เซนติเมตร ยาว 178 เซนติเมตร สูง 117 เซนติเมตร  
ไฟ 200V = 69,800 บ 
ไฟ 380 V = 68,500 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 7.5 แรงม้า ถัง 260 ลิตร รุ่น SB-75/260 มอเตอร์ 7.5 แรงม้า 
กำลังไฟ 5.5 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 100 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 70 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 960 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 1,045 ลิตร/นาที หรือ 36.90 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณลมที่ทำได้จริง 658.40 ลิตร/นาที หรือ 23.25 ลูกบาศก์ฟุต/นาที 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้ 7 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ปริมาณแรงดันที่ทำได้สูงสุด 10 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร (บาร์) หรือ 145 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
ถังพักลมขนาด 260 ลิตร ปั๊มลมกว้าง 63 เซนติเมตร ยาว 153 สูง 120 เซนติเมตร  
ไฟ 380 V = 65,800 บ

 
 
ปั๊มลมลูกสูบ 7.5 แรงม้า ถัง 304 ลิตร รุ่น SB-75/304 มอเตอร์ 7.5 แรงม้า 
กำลังไฟ 5.5 กิโลวัตต์ ความกว้างของกระบอกสูบ 100 มิลลิเมตร 
ระยะชักของกระบอกสูบ 70 มิลลิเมตร จำนวนลูกสูบ 2 สูบ ความเร็วรอบหัวปั๊ม 960 รอบต่อนาที 
ปริมาณการทำลมของลูกสูบ 1,045 ลิต
Visitors: 14,530